Closed Rhinoplasty

การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกแบบปิดหรือแบบเอเชีย


เป็นการผ่าตัดเสริมจมูกแบบธรรมดามีวิธีการผ่าตัดคือ ทำการเปิดแผลบริเวณภายในรูจมูกทั้ง 2 ข้าง หลังจากนั้นจะใส่ซิลิโคนเข้าไป และปรับรูปทรงให้ มีความสวยงามเหมาะสม จากนั้นทำการเย็บปิดแผล หรือกรณีที่ต้องการทำการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งปีกจมูก (Alarplasty)ก็ ทำการผ่าตัดปีกจมูกไปพร้อมกันกับการผ่าตัดเสริมจมูก


การผ่าตัดปีกจมูกไปพร้อมกันกับการผ่าตัดเสริมจมูก
การเสริมจมูกแบบปิด Silicone L-Shape เสริมจมูกแบบปิดและตกแต่งปีกจมูก
1.1 การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกแบบปิด ร่วมกับการใส่กระดูกอ่อนหลังหู (ear cartilage)เพื่อคลุมตรงปลายจมูก เพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น ลดโอกาสการทะลุของซิลิโคนลง
ขั้นตอนการทำ คือขั้นแรกศัลยแพทย์ตกแต่งจะทำการเอากระดูกอ่อนหลังหูออกมา เปิดแผลบริเวณด้านหลังหู แล้วเอาส่วนกระดูกอ่อนที่ไม่ใช่โครงสร้างของใบหูมา ทำให้มองไม่เห็นแผลและไม่ส่งผลกระทบต่อรูปร่างของใบหู ใบหูจะยังคงมีรูปทรงปกติเหมือนก่อนทำ หลังจากนั้นจะทำการเปิดแผนบริเวณจมูกทั้งสองข้าง เพื่อทำการใส่ซิลิโคนที่ได้เหลาไว้แล้ว พร้อมกับกระดูกอ่อนหลังหู มาคลุมบริเวณปลายจมูก ปรับรูปทรงให้ได้ตามความเหมาะสม และสวยงาม แล้วเย็บปิดแผลที่รูจมูกทั้ง 2 ข้าง

เสริมจมูกแบบปิดร่วมกับการใส่กระดูกอ่อนหลังหู
1.2 การผ่าตัดศัลยกรรมผ่าตัดตกแต่งปีกจมูก(Alarplasty)
เป็นการผ่าตัดเพื่อลดขนาดจมูก หรือเพื่อปรับแต่งปีกจมูกให้มีสัดส่วนที่เหมาะสมสวยงามมากขึ้น

การผ่าตัดเพื่อลดขนาดจมูก หรือเพื่อปรับแต่งปีกจมูก

ข้อดีของการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกแบบปิด

  1. สามารถทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน
  2. ผลการผ่าตัดออกมาสวย
  3. ราคาไม่แพง
  4. พักฟื้นในระยะสั้นๆ

ข้อเสียของการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกแบบปิด

  1. ไม่สามารถแก้ไขได้ทุกปัญหา เช่น จมูกสั้น จมูกใหญ่ เป็นต้น
  2. มีโอกาสทะลุได้ ถ้าใส่ซิลิโคนโด่งเกินไป

รายละเอียดเบื้องต้นของการศัลยกรรมเสริมจมูกแบบปิด

ระยะเวลาการผ่าตัด : 1-2 ชั่วโมง

ลักษณะยาชา : ยาชาเฉพาะที่

ระยะเวลาพักฟื้น : 1 สัปดาห์

ลักษณะการบวม :

  • อาการบวมเขียวช้ำประมาณ 3-5 วัน
  • อาการบวมจะค่อยๆลดลงใน 1-2 สัปดาห์

ตัดไหม : 1 สัปดาห์